เมนู [ตัวเลือก] ============== เมนู ตัวเลือก: |menu_image085| ตำแหน่งรายการเมนูบางตำแหน่งอาจแตกต่างกันไปในในซอฟต์แวร์เวอร์ชันต่างๆ [การตั้งค่า] ---------------- ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ต่างๆเพื่อปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมได้ ทั่วไป ^^^^^^^^^^^^^ |menu_image086| |menu_image087| - **บันทึกสำเนาเพื่อความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ**: ตั้งค่า การบันทึกสำเนาความปลอดภัยตามต้องการ เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ไฟล์ที่ยังไม่ได้บันทึกสูญหายไปเนื่องจากการปิดคอมพิวเตอร์แบบผิดปกติ หรือซอฟต์แวร์ขัดข้อง - ใน V6.0: สามารถตั้งค่าให้การดำเนินการทุก ๆ N ครั้ง มีการบันทึกสำเนาความปลอดภัยโดยอัตโนมัติได้ - ใน V7.0: สามารถตั้งค่าให้ทุกๆ N วินาที มีการบันทึกสำเนาความปลอดภัยโดยอัตโนมัติได้ |menu_image088| .. note:: หลังจากตั้งค่า ** Automatically Save a Security Copy** แล้ว ระบบจะบันทึกสำเนาที่ต้องการรักษาความปลอดภัยโดยอัตโนมัติตามการตั้งค่า เมื่อคุณจะทำการบันทึกสำเนาที่ต้องการรักษาความปลอดภัยด้วยตัวเอง สำเนาความปลอดภัยที่บันทึกโดยอัตโนมัติจะถูกลบออก - การปรับให้เหมาะสมใน V7.0: เมื่อซอฟต์แวร์ขัดข้อง หน้าต่างการบันทึกย้อนกลับอัตโนมัติจะปรากฏขึ้นหลังจากเปิดซอฟต์แวร์ขึ้นมาใหม่ ให้ดับเบิลคลิกเพื่อย้อนกลับไปดูสำเนาเอกสารที่ต้องการรักษาความปลอดภัย: |menu_image089| แสดง ^^^^^^^ |menu_image090| |menu_image091| |menu_image092| พารามิเตอร์ ^^^^^^^^^^^^ |menu_image093| |menu_image094| แสดงและพิมพ์ ^^^^^^^^^^^^^^^ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกรายการที่ต้องการนำมาแสดงและพิมพ์ชิ้นงานในพื้นที่จำลองได้ |menu_image095| |menu_image096| |menu_image097| ความเข้ากันได้ ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ |menu_image098| เครื่องตัดผ้า ^^^^^^^^^ เลือกตัวเลือกที่ต้องการสำหรับการตัด |menu_image099| ปุ่มลัด ^^^^^^^^ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างปุ่มลัดเพื่อใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ผู้ใช้สามารถใช้ปุ่มลัดที่มีอยู่เดิม หรือกำหนดค่าปุ่มลัดใหม่ได้ตามต้องการ |menu_image100| ตัวอย่างเช่น เพิ่ม CTRL+/ เป็นปุ่มลัดสำหรับฟังก์ชัน [ค้นหา ... ]: #. คลิกเพื่อเลือกรายการ [ค้นหา ... ]: #. จากนั้นกดปุ่ม **Ctrl** และ **/** ในระหว่างนี้ ** Ctrl + / ** จะถูกเพิ่มเข้าไปในช่องว่าง |menu_image101| .. note:: หากปุ่มลัดที่สร้างมานั้นถูกใช้งานโดยฟังก์ชั่นอื่น ๆ อยู่ก่อนแล้ว จะปรากฏเป็นสีแดงเพื่อเตือน หากคุณยังต้องการใช้ปุ่มลัดนี้สำหรับฟังก์ชันนั้น คุณต้องคลิกปุ่ม [Continue] เพื่อลบการกำหนดก่อนหน้านี้ออก จากนั้นปุ่มลัดนั้นจะถูกใช้สำหรับฟังก์ชันใหม่ |menu_image102| ในการลบปุ่มลัดออก ให้เลือกรายการที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม ** Backspace ** บนแป้นพิมพ์ คลิก [ตั้งค่าใหม่ทั้งหมด] ปุ่มลัดที่กำหนดเองทั้งหมดจะกลับสู่สถานะเริ่มต้นเดิม ปุ่มพิมพ์จะไม่เหมือนกันตามระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน (Windows/ Mac/ Linux) โปรดดูรายการปุ่มลัดในบทที่หนึ่งสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ระบบอัตโนมัติ ^^^^^^^^^^^^^^^^ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกประเภทของกลไกเนสติ้งอัตโนมัติ เวลาในการเนสติ้งอัตโนมัติและวางตำแหน่งของชิ้นงานได้ |menu_image103| |menu_image104| วิธีเพิ่มระบบอัตโนมัติ: วิธีการเพิ่มระบบอัตโนมัติแบบต่างๆจะเหมือนกัน ให้ใช้ PAD AutoMark เป็นตัวอย่าง: |menu_image105| |menu_image106| ** ใหม่ใน V7.0: ** โหมดสองโหมดสำหรับเนสติ้งอัตโนมัติออนไลน์ ได้แก่: 1. เซิร์ฟเวอร์เฉพาะบริเวณ: ซื้อคีย์และทำงานร่วมกับ Nester Manager; 2. เข้าสู่ระบบ PAD System Cloud และซื้อบริการวางมาร์คอัตโนมัติออนไลน์ |menu_image107| - โหมด 1: หากติดตั้ง Nester Manager ในคอมพิวเตอร์ A และเสียบคีย์เข้าไป หลังจากตั้งค่าพารามิเตอร์เอ็นจินใน Nester Manager แล้ว คอมพิวเตอร์ A จะทำงานเป็นเซิร์ฟเวอร์การวางมาร์คเฉพาะบริเวณ จากนั้นผู้ใช้สามารถส่งไฟล์ที่ต้องการจาก Computer B/C/D ได้ โดยติดตั้ง Marker Design ไปยัง Computer A เพื่อทำการวางมาร์ค(สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nester Manager โปรดดูคู่มือผู้ใช้ Nester Manager) |menu_image108| - โหมด 2: เข้าสู่ระบบบัญชี PAD System Cloud เพื่อเริ่มการทำการวางมาร์ค ผู้ใช้ต้องจ่ายเงินสำหรับการทำการเนสติ้ง .. note:: หลังจากตั้งค่าระบบ/ โหมดการวางมาร์คอัตโนมัติแล้ว ผู้ใช้สามารถไปที่เมนู [วางมาร์คอัตโนมัติ] เพื่อเริ่มการทำการวางมาร์คอัตโนมัติได้ โปรดอ่านส่วน [วางมาร์คอัตโนมัติ] สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม พล็อต... ^^^^^^^^^ หน้าการตั้งค่าพล็อตจะย้ายไปยังเส้นทาง ไฟล์-พล็อต ผู้ใช้สามารถกำหนดข้อมูลพล็อต และเลือกที่จะส่งไฟล์เพื่อทำการพล็อตในหน้าเดียวกันได้ ตำแหน่งใหม่: ไฟล์ - พล็อต ตำแหน่งเดิม: ตัวเลือก - การตั้งค่า - พล็อต สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดค่าการพล็อต โปรดดูที่พัวข้อเมนู [ไฟล์] ในบทนี้ [ตัวแบ่งมาร์คเกอร์] ------------------ ตัวแบ่งมาร์คเกอร์จะช่วยให้คุณสร้างรอยแบ่งบนขอบมาร์คเกอร์ได้ โดยจะระบุตำแหน่งที่ตัวกระจาย ควรเริ่มการวางผ้าใหม่หลังจากการแบ่งเพื่อให้ครอบคลุมชิ้นงานทั้งหมด ขั้นตอน: |menu_image109| |menu_image110| .. note:: วิธีเอารอยแบ่งออกไป: เลื่อนชิ้นงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งบนพื้นผิวจำลอง แล้วรอยแบ่งจะหายไป [การเว้นช่องว่าง...] -------------- ในระหว่างการทำเนสติ้ง อาจจำเป็นต้องมีช่องว่างระหว่างชิ้นงาน จากนั้นให้เลือก [เว้นช่อง...] ในเมนู [ตัวเลือก] กล่องโต้ตอบ ระยะห่างระหว่างชิ้น จะเปิดขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้กำหนดช่วงห่าง ระยะห่างจะถูกสร้างขึ้นเมื่อวางชิ้นงานมากกว่าหนึ่งชิ้นลงในพื้นที่จำลอง (ระยะห่างที่เกิดขึ้นนั้นจะ ≥ ระยะห่างที่ผู้ใช้ได้ตั้งไว้ในกล่องโต้ตอบ) |menu_image111| |menu_image112| |menu_image113| .. note:: ไปที่เมนู [ตัวเลือก]-[การตั้งค่า]-[แสดงผล]-[หน่วย&ความแม่นยำ] เพื่อกำหนดหน่วยในการเว้นช่วงห่าง ผู้ใช้ยังสามารถป้อนค่าและหน่วยได้ในคราวเดียวกัน ระบบจะเสร็จสิ้นการแปลงหน่วยโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น: หน่วยปัจจุบันเป็นนิ้ว และผู้ใช้ต้องการ 1 ซม. ให้ป้อน 1 ซม. เข้าไปได้เลย [พับและทรงกระบอก...] ---------------------- รายการพับและทรงกระบอก ... ในเมนูตัวเลือก จะทำการจำลองผ้าพับหรือทรงกระบอก เมื่อคุณเลือกการพับและทรงกระบอก กล่องโต้ตอบ การพับและทรงกระบอกจะเปิดขึ้น ให้เลือกตัวเลือกทรงกระบอก หรือ พับ แล้วคลิกปุ่ม [ตกลง] จากนั้นเครื่องมือที่ซ่อนอยู่ พับ/เลิกพับ |menu_image114| และจับคู่ /เลิกจับคู่ |menu_image115| จะปรากฏขึ้นในแถบเครื่องมือ |menu_image116| |menu_image117| หลังจากเลือก Fold/Tubular แล้ว เครื่องมือพับ/เลิกพับ |menu_image114| และ จับคู่ /เลิกจับคู่ |menu_image115| จะสามารถนำมาใช้ได้สำหรับการเนสติ้ง: ให้ใช้ Tubular (ทรงกระบอก) เป็นตัวอย่าง: #. เลือก ทรงกระบอก ซึ่งพร้อมสำหรับการเนสติ้ง; #. คลิกหมายเลขใต้ชิ้นงานที่ต้องการในแผนภูมิเพื่อวางไว้ในพื้นที่จำลอง ตอนนี้ชิ้นงานนั้นจะอยู่ในสภาพที่ยังไม่พับ; #. เลือกชิ้นงานที่สมมาตร แล้วคลิกเครื่องมือ |menu_image114| จากนั้นชิ้นงานที่เลือกจะพับลงไปด้านล่าง; #. เลือกชิ้นงานที่สมมาตรอีกชิ้น กดปุ่ม "0" แล้วคลิกเครื่องมือ |menu_image114| จากนั้นชิ้นงานนี้จะพับขึ้นไปด้านบน; |menu_image118| |menu_image119| |menu_image120| #. คลิกหมายเลขใต้ชิ้นงานอีกครั้งเพื่อดำเนินการเนสติ้งต่อไป หากชิ้นงานที่เลือกเป็นชิ้นงานที่มีการจับคู่ (เช่น แขนเสื้อจะเป็นงานที่จับคู่กับชิ้นซ้ายและชิ้นขวา) เนื่องจากเป็นทรงกระบอก นั่นหมายความว่าเป็นสองชั้น ดังนั้นเพื่อให้ได้งานหนึ่งชุด จะต้องมีงานสองชิ้น |menu_image121| .. note:: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือ Fold/Unfold (พับ/เลิกพับ) |menu_image114| และ Pair/Unpair (จับคู่ /เลิกจับคู่) |menu_image115| โปรดดูบทที่ 3 [ผ้าทางเดียว...] -------------------- ตามข้อกำหนดเฉพาะ (เช่น ผ้า การออกแบบ การประหยัดผ้า และอื่น ๆ) ผู้ใช้จำเป็นต้องบังคับทิศทางชิ้นงานสำหรับผ้าทางเดียวหรือสำหรับมาร์คเกอร์การเบียดเสียด (ขนาดทางเลือก) คลิก [ตัวเลือก]-[ผ้าทางเดียว] เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ และเลือกตัวเลือก "ผ้าทางเดียว" ซึ่งจะแสดงขนาดและตัวเลขทั้งหมด แล้วตัวเลือกที่ตรงกันจะพร้อมใช้งาน |menu_image122| - แนะนำเบื้องต้นและตัวอย่างกล่องโต้ตอบ: |menu_image123| |menu_image124| .. note:: หลังจากเลือกผ้าทางเดียวแล้ว สัญลักษณ์แทนทิศทางจะปรากฏขึ้นก่อนขนาดของชิ้นงานในแผนภูมิ: |menu_image125| [ลายสก็อตและลายทาง] ---------------------- รายการพับและทรงกระบอก ... ในเมนูตัวเลือกนั้น จะจำลองผ้าลายสก๊อตหรือลายทางสำหรับทำการเนสติ้ง ใน V6.0 รายการนี้จะไม่มีให้ใช้ได้ตามปกติ ผู้ใช้ต้องสร้างตัวชี้แนวอย่างน้อยหนึ่งข้อเพื่อเปิดใช้งานรายการนี้ วิธีการสร้างตัวชี้แนว: - วิธีแรก: สร้างตัวชี้แนวโดยการลาก: คลิกซ้ายที่ไม้บรรทัดโดยไม่ต้องปล่อยปุ่มเมาส์ ลากเคอร์เซอร์ไปที่พื้นที่จำลอง เส้นประจะปรากฏขึ้น ให้ทำการย้ายเส้นประนั้นไปยังตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นปล่อยปุ่มเมาส์ แล้วตัวชี้แนวจะถูกสร้างขึ้น |menu_image126| - วิธีที่สอง: สร้างตัวชี้แนวโดยการป้อนค่า: กดปุ่ม ** Alt ** ค้างไว้ แล้วคลิกไม้บรรทัด: |menu_image127| **note**: ใน V6.0 หากคุณต้องการตั้งค่าลายสก๊อตและลายทาง คุณต้องป้อนค่าก่อน จากนั้นไปที่เมนู [ตัวเลือก]-[ลายสก็อตและลายทาง] เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ ให้ทำการป้อนค่าที่คุณได้เคยป้อนมาก่อน จากนั้นตัวชี้แนวจะปรากฏขึ้น หลังจากสร้างตัวชี้แนวแล้ว จะมีรายการ [ลายสก็อตและลายทาง] ในเมนู คลิกรายการนี้เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ: |menu_image128| |menu_image129| **การปรับให้เหมาะสมสำหรับ ลายสก็อตและลายทาง ใน V7.0: ** ไม่จำเป็นต้องเพิ่มบรรทัดในตอนแรกในพื้นที่จำลองด้วยตนเองก่อนเพื่อเปิดใช้งานรายการในเมนู ผู้ใช้จะสามารถคลิกรายการเพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ [ลายสก็อตและลายทาง] และป้อนค่าเพื่อตั้งค่าลายสก็อตได้โดยตรง วิธีกำหนดลายสก็อต/ลายทาง ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ - กำหนดผ้าลายทางแนวตั้งรอบเดียว: เช่น กำหนดลายทางแนวตั้งโดยเว้นระยะห่าง 2 นิ้ว: - วิธีทำใน V6.0: #. กดปุ่ม Alt ค้างไว้ แล้วคลิกไม้บรรทัด #. สร้างตัวชี้แนว: ป้อนค่า 2 นิ้วในกล่องโต้ตอบ แล้วคลิก [ตกลง]; #. รายการ [ลายสก็อตและลายทาง] ในเมนูถูกเปิดใช้งาน ดังนั้นให้ทำการคลิกไปที่รายการนั้น; #. กล่องโต้ตอบจะปรากฏขึ้น ให้ป้อน ** 2 นิ้ว** ใน **ความยาวของชิ้นตัวอย่าง** และค่าใด ๆ (บวก) ใน **ความสูงของชิ้นตัวอย่าง** คลิก [ตกลง]; #. ระบบสร้างลายทางแนวตั้ง และเลือกผ้าทางเดียวโดยอัตโนมัติ (ชิ้นงานทุกขนาดจะวางในทิศทางเดียวกัน ผู้ใช้สามารถกำหนดทิศทางที่ต้องการสำหรับขนาดต่างๆหรือสลับกันได้) 　 |menu_image130| 　 |menu_image131| - วิธีทำใน V7.0: ให้ไปที่เมนู [ตัวเลือก]-[ลายสก็อตและลายทาง] แล้วเปิดกล่องโต้ตอบ ป้อนค่าใน " ความยาวของชิ้นตัวอย่าง" แล้วคลิก [ตกลง] ระบบจะสร้างแถบแนวตั้งตามที่สร้างขึ้น จากขั้นตอนที่ 5, 6 ข้างต้น: |menu_image132| 　 |menu_image133| - กำหนดค่าลายทางสองรอบ เช่น: |menu_image134| - วิธีทำใน V6.0: #. ป้อนค่าเพื่อสร้างตัวชี้แนวสองตัว: ตัวชี้แนว 1 นิ้ว และตัวชี้แนว 3 นิ้ว; #. จากนั้นเลือกตัวชี้แนว คลิกเมนู [กระทำ]-[ข้อมูลวัตถุ] เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ เลือกสีตัวชี้แนว; #. คลิกเมนู [ตัวเลือก]-[ลายสก็อตและลายทาง] เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ ให้ป้อนค่าที่มากขึ้นที่คุณได้ป้อนไว้แล้วในขั้นตอนที่ 1 ดังนี้: 3 นิ้ว ใน **ความยาวของชิ้นตัวอย่าง** และป้อนค่าใดก็ได้ใน **ความสูงของชิ้นตัวอย่าง** จากนั้น คลิก [ตกลง]; #. หากคุณไม่ได้เลือกผ้าทางเดียว ระบบจะเตือนให้คุณเลือก ให้คลิก [ดำเนินการต่อ]; #. ระบบจะสร้างลายทางแนวตั้ง และเลือกผ้าทางเดียวโดยอัตโนมัติ (ชิ้นงานทุกขนาดจะวางในทิศทางเดียวกัน ผู้ใช้สามารถกำหนดทิศทางที่ต้องการสำหรับขนาดต่างๆหรือสลับกันได้) |menu_image135| |menu_image136| |menu_image137| |menu_image138| - วิธีทำใน V7.0: #. ป้อนค่าเพื่อสร้างตัวชี้แนวสองตัว: ตัวชี้แนว 1 นิ้ว และตัวชี้แนว 3 นิ้ว; .. note:: V7.0 จะทำการปรับให้เหมาะสมบนกล่องโต้ตอบตัวชี้แนว: |menu_image139| #. ไปที่เมนู [ตัวเลือก]-[ลายสก็อตและลายทาง] และเปิดกล่องโต้ตอบ ให้ป้อนค่าที่มากขึ้นที่คุณได้ป้อนไว้แล้วในขั้นตอนที่ 1 ดังนี้: 3 นิ้ว ใน "ความยาวของชิ้นตัวอย่าง" แล้วคลิก [ตกลง] .. note:: ใหม่ใน V7.0 สำหรับกล่องโต้ตอบ: ** ความยาวของชิ้นตัวอย่าง** ** ความสูงของชิ้นตัวอย่าง** สามารถรับรู้ค่าที่มากกว่าที่คุณป้อนก่อนไปหน้านี้และยอมรับค่าศูนย์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องป้อนค่าใด ๆ ที่นี่เหมือนใน V6.0 #. หากคุณไม่ได้เลือกผ้าทางเดียว ระบบจะเตือนให้คุณเลือก ให้คลิก [ดำเนินการต่อ]; #. ระบบจะสร้างลายทางแนวตั้ง และเลือกผ้าทางเดียวโดยอัตโนมัติ (ชิ้นงานทุกขนาดจะวางในทิศทางเดียวกัน ผู้ใช้สามารถกำหนดทิศทางที่ต้องการสำหรับขนาดต่างๆหรือสลับกันได้) |menu_image140| |menu_image141| |menu_image142| .. note:: ตัวอย่างที่แสดงข้างต้นเป็นเพียงการแนะนำวิธีการสร้างลายทางแนวตั้งแบบรอบเดียวหรือลายทางแนวตั้งแบบสองรอบ หากคุณต้องการสร้างลายทางแบบ N รอบ ให้สร้างตัวชี้แนว N ตัวในขั้นตอนแรก แล้วทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ - ตั้งค่าผ้าลายสก็อตรอบเดียว: ตัวอย่าง: - ใน V6.0: #. ป้อนค่าเพื่อสร้างตัวชี้แนวสองตัวดังนี้: 2 นิ้วสำหรับตัวชี้แนวตั้ง และ 5 นิ้วสำหรับแนวนอน (เลือกตัวชี้แนว คลิกเมนู [กระทำ]-[ข้อมูลวัตถุ] เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ เลือกสีตัวชี้แนว); #. คลิกเมนู [ตัวเลือก]-[ลายสก็อตและลายทาง] เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ ป้อนค่า 2 นิ้วสำหรับตัวชี้แนวตั้งใน **ความยาวของชิ้นตัวอย่าง** และ 5 นิ้วสำหรับแนวนอนใน **ความสูงของชิ้นตัวอย่าง** จากนั้นคลิก [ตกลง]; #. หากคุณไม่ได้เลือกผ้าทางเดียว ระบบจะเตือนให้คุณเลือก ให้คลิก [ดำเนินการต่อ]; #. ระบบจะสร้างลายทางแนวตั้ง และเลือกผ้าทางเดียวโดยอัตโนมัติ (ชิ้นงานทุกขนาดจะวางในทิศทางเดียวกัน ผู้ใช้สามารถกำหนดทิศทางที่ต้องการสำหรับขนาดต่างๆหรือสลับกันได้) |menu_image143| |menu_image144| |menu_image145| - ใน V7.0: #. คลิกเมนู [ตัวเลือก]-[ลายสก็อตและลายทาง] เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ ป้อนค่า 2 นิ้วสำหรับตัวชี้แนวตั้งใน **ความยาวของชิ้นตัวอย่าง** และ 5 นิ้วสำหรับแนวนอนใน **ความสูงของชิ้นตัวอย่าง** จากนั้นคลิก [ตกลง]; #. หากคุณไม่ได้เลือกผ้าทางเดียว ระบบจะเตือนให้คุณเลือก ให้คลิก [ดำเนินการต่อ]; #. ระบบจะสร้างลายทางแนวตั้ง และเลือกผ้าทางเดียวโดยอัตโนมัติ (ชิ้นงานทุกขนาดจะวางในทิศทางเดียวกัน ผู้ใช้สามารถกำหนดทิศทางที่ต้องการสำหรับขนาดต่างๆหรือสลับกันได้) |menu_image146| |menu_image147| .. note:: หากคุณต้องการสร้างผ้าลายสก็อตแบบ N รอบ ให้สร้างตัวชี้แนวๆตั้งและแนวนอน N ตัวในขั้นตอนแรก แล้วทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ ก. ถ้าอยู่ใน V6.0 ให้ป้อนค่าที่มากที่สุดที่คุณได้ป้อนสำหรับตัวชี้แนวตั้งในขั้นตอนแรก ใน **ความยาวของชิ้นตัวอย่าง** และค่าที่มากที่สุดสำหรับแนวนอนใน **ความสูงของชิ้นตัวอย่าง** จากนั้นคลิก [ตกลง]; ข. หากเป็นใน V7.0 ระบบจะอ่านค่าที่มากที่สุดที่คุณป้อนมาก่อนหน้านี้โดยอัตโนมัติ ให้คลิก [ตกลง] ได้เลย - ตั้งค่าผ้าลายทางแนวทแยง: ขั้นตอนส่วนใหญ่แล้วจะเหมือนกับวิธีการตั้งค่าผ้าลายทางที่แนะนำข้างต้น ข้อแตกต่างคือคุณต้องป้อนค่ามุมค่าหนึ่งใน **มุมชิ้นตัวอย่าง**: |menu_image148| |menu_image149| .. note:: ในการทำการวางมาร์คบนผ้าลายทแยงนั้น ให้วางชิ้นงานที่ต้องการบนพื้นที่จำลอง (ชิ้นงานจะถูกวางเอียงตามมุม); ในการวางชิ้นงานโดยอัตโนมัตินั้น คุณต้องวางชิ้นงานทั้งหมดบนพื้นที่จำลอง (จะวางเอียงตามมุม) จากนั้นนำชิ้นงานทั้งหมดไปไว้ในพื้นที่สแตนด์บาย (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพื้นที่สแตนด์บาย โปรดดูที่คำนำเบื้องต้นของพื้นที่สแตนด์บาย |menu_image151| ) จากนั้นเริ่มการวางมาร์คอัตโนมัติ (เลือกมาร์คเกอร์อัตโนมัติ |menu_image150| ) หลังจากที่ทำลายทาง/ ลายสก๊อตแล้ว จะเป็นวิธีจับคู่ลายสก๊อตกับลายทางเมื่อทำการเนสติ้ง ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ หลังจากที่ทำลายทาง/ลายสก๊อตแล้ว จำเป็นที่จะต้องจับคู่ลายสก๊อตกับลายทางเมื่อทำการวางมาร์ค โดยให้: #. ไปที่เมนู [มุมมอง] - [ชิ้นงานเชื่อมโยง] ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นหน้าต่าง ชิ้นงานเชื่อมโยง เพื่อให้ผู้ใช้ทำการตั้งค่าพารามิเตอร์ของ ชิ้นงานเชื่อมโยง หรือจุดเชื่อมโยง; #. หลังจากตั้งค่าแล้ว ให้คลิกเมนู [มุมมอง]-[ชิ้นงานเชื่อมโยง] อีกครั้ง จากนั้นคลิกปุ่ม [ดำเนินการต่อ] บนกล่องโต้ตอบคำเตือน; #. เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนข้างต้นแล้ว เริ่มทำมาร์คเกอร์อัตโนมัติ |menu_image152| |menu_image153| .. note:: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเชื่อมโยง/จับคู่จุด โปรดดูที่คำแนะนำเมนูเกี่ยวกับ [มุมมอง] หัวข้อ [ชิ้นงานเชื่อมโยง] [รายการรอยบาก] -------------- ผู้ใช้สามารถสร้าง แก้ไข และลบ รอยบากประเภทต่างๆ ที่ใช้บนมาร์คเกอร์ของคุณได้ |menu_image154| |menu_image155| .. note:: สามารถใส่ค่าตัวเลขพร้อมหน่วยได้ ตัวอย่างเช่น หน่วยระบบปัจจุบันคือ **นิ้ว** หากคุณต้องการค่า 0.5 ซม. ให้ป้อน 0.5 ซม. ได้เลย ระบบจะคำนวณผลลัพธ์โดยอัตโนมัติ [รายการข้อความ] ------------ ตั้งค่าข้อความที่ใช้บ่อยไว้ล่วงหน้า ผู้ใช้จะสามารถใช้งานข้อความเหล่านั้นได้โดยตรงเมื่อใช้เครื่องมือข้อความ |menu_image156| |menu_image157| |menu_image158| [ล็อกตัวชี้แนว] ---------------- ** ก่อนที่จะแนะนำฟังก์ชันการทำงานของ [ล็อกตัวชี้แนว] จะขอแนะนำวิธีการสร้างตัวชี้แนวก่อน ** วิธีการสร้างตัวชี้แนว: - วิธีแรก: สร้างตัวชี้แนวโดยการลาก: คลิกซ้ายที่ไม้บรรทัดโดยไม่ต้องปล่อยปุ่มเมาส์ ลากเคอร์เซอร์ไปที่พื้นที่จำลอง เส้นประปรากฏขึ้น ให้ย้ายเส้นประไปยังตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นปล่อยปุ่มเมาส์ แล้วตัวชี้แนวจะถูกสร้างขึ้น |menu_image126| - วิธีที่สอง: สร้างตัวชี้แนวโดยการป้อนค่า: กดปุ่ม ** Alt ** ค้างไว้ แล้วคลิกไม้บรรทัด: |menu_image127| |menu_image159| .. note:: วิธีการสร้างตัวชี้แนวใน V6.0 นั้น จะเหมือนกับ V7.0 ความแตกต่างคือ V7.0 ทำการปรับให้เหมาะสมสำหรับกล่องโต้ตอบตัวชี้แนว ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าและสีในกล่องโต้ตอบเดียวกันนั้นได้ **ล็อกตัวชี้แนว/ปลดล็อกตัวชี้แนว: ** - ล็อกตัวชี้แนว: คลิก [ตัวเลือก] - [ล็อคเเนวทาง] จากนั้นตัวชี้แนวพื้นที่จำลองจะถูกล็อค ซึ่งผู้ใช้จะไม่สามารถเลือก ย้าย หรือแก้ไขตัวชี้แนวได้ และชื่อรายการนั้นจะกลายเป็น [ปลดล็อกตัวชี้แนว] - ปลดล็อกตัวชี้แนว: คลิก [ตัวเลือก]-[ปลดล็อคเเนวทาง] ตัวชี้แนวทั้งหมดจะถูกปลดล็อก ผู้ใช้จะสามารถเลือก ย้าย หรือแก้ไขตัวชี้แนวได้ - นอกจากใช้สำหรับการจับคู่ลายทางกับลายสก็อตแล้ว ยังสามารถใช้ตัวชี้แนวในการจำกัดช่วงการวางมาร์ค หรือเป็นเส้นอ้างอิงได้อีกด้วย เช่น: การจำกัดช่วงการเนสติ้ง : |menu_image160| .. |menu_image085| image:: _static/menu/menu_image085.png .. |menu_image086| image:: _static/menu/menu_image086.png .. |menu_image087| image:: _static/menu/menu_image087.png .. |menu_image088| image:: _static/menu/menu_image088.png .. |menu_image089| image:: _static/menu/menu_image089.png .. |menu_image090| image:: _static/menu/menu_image090.png .. |menu_image091| image:: _static/menu/menu_image091.png .. |menu_image092| image:: _static/menu/menu_image092.png .. |menu_image093| image:: _static/menu/menu_image093.png .. |menu_image094| image:: _static/menu/menu_image094.png .. |menu_image095| image:: _static/menu/menu_image095.png .. |menu_image096| image:: _static/menu/menu_image096.png .. |menu_image097| image:: _static/menu/menu_image097.png .. |menu_image098| image:: _static/menu/menu_image098.png .. |menu_image099| image:: _static/menu/menu_image099.png .. |menu_image100| image:: _static/menu/menu_image100.png .. |menu_image101| image:: _static/menu/menu_image101.png .. |menu_image102| image:: _static/menu/menu_image102.png .. |menu_image103| image:: _static/menu/menu_image103.png .. |menu_image104| image:: _static/menu/menu_image104.png .. |menu_image105| image:: _static/menu/menu_image105.png .. |menu_image106| image:: _static/menu/menu_image106.png .. |menu_image107| image:: _static/menu/menu_image107.png .. |menu_image108| image:: _static/menu/menu_image108.png .. |menu_image109| image:: _static/menu/menu_image109.png .. |menu_image110| image:: _static/menu/menu_image110.png .. |menu_image111| image:: _static/menu/menu_image111.png .. |menu_image112| image:: _static/menu/menu_image112.png .. |menu_image113| image:: _static/menu/menu_image113.png .. |menu_image114| image:: _static/menu/menu_image114.png .. |menu_image115| image:: _static/menu/menu_image115.png .. |menu_image116| image:: _static/menu/menu_image116.png .. |menu_image117| image:: _static/menu/menu_image117.png .. |menu_image118| image:: _static/menu/menu_image118.png .. |menu_image119| image:: _static/menu/menu_image119.png .. |menu_image120| image:: _static/menu/menu_image120.png .. |menu_image121| image:: _static/menu/menu_image121.png .. |menu_image122| image:: _static/menu/menu_image122.png .. |menu_image123| image:: _static/menu/menu_image123.png .. |menu_image124| image:: _static/menu/menu_image124.png .. |menu_image125| image:: _static/menu/menu_image125.png .. |menu_image126| image:: _static/menu/menu_image126.png .. |menu_image127| image:: _static/menu/menu_image127.png .. |menu_image128| image:: _static/menu/menu_image128.png .. |menu_image129| image:: _static/menu/menu_image129.png .. |menu_image130| image:: _static/menu/menu_image130.png .. |menu_image131| image:: _static/menu/menu_image131.png .. |menu_image132| image:: _static/menu/menu_image132.png .. |menu_image133| image:: _static/menu/menu_image133.png .. |menu_image134| image:: _static/menu/menu_image134.png .. |menu_image135| image:: _static/menu/menu_image135.png .. |menu_image136| image:: _static/menu/menu_image136.png .. |menu_image137| image:: _static/menu/menu_image137.png .. |menu_image138| image:: _static/menu/menu_image138.png .. |menu_image139| image:: _static/menu/menu_image139.png .. |menu_image140| image:: _static/menu/menu_image140.png .. |menu_image141| image:: _static/menu/menu_image141.png .. |menu_image142| image:: _static/menu/menu_image142.png .. |menu_image143| image:: _static/menu/menu_image143.png .. |menu_image144| image:: _static/menu/menu_image144.png .. |menu_image145| image:: _static/menu/menu_image145.png .. |menu_image146| image:: _static/menu/menu_image146.png .. |menu_image147| image:: _static/menu/menu_image147.png .. |menu_image148| image:: _static/menu/menu_image148.png .. |menu_image149| image:: _static/menu/menu_image149.png .. |menu_image150| image:: _static/menu/menu_image150.png .. |menu_image151| image:: _static/menu/menu_image151.png .. |menu_image152| image:: _static/menu/menu_image152.png .. |menu_image153| image:: _static/menu/menu_image153.png .. |menu_image154| image:: _static/menu/menu_image154.png .. |menu_image155| image:: _static/menu/menu_image155.png .. |menu_image156| image:: _static/menu/menu_image156.png .. |menu_image157| image:: _static/menu/menu_image157.png .. |menu_image158| image:: _static/menu/menu_image158.png .. |menu_image159| image:: _static/menu/menu_image159.png .. |menu_image160| image:: _static/menu/menu_image160.png